ดูเป็นคำพูดที่ธรรมดา แต่ก็คือความจริง ขอบคุณทุกๆชีวิตที่ทำให้มีไทยป(ร)ะกันชีวิต
ขอบคุณทุกชีวิตที่ทำให้ไทยป(ร)ะกันชีวิตยังคงอยู่ ขอบคุณพนักงานทุกคนที่ดูแลองค์กรนี้ครับ
ผมจะสร้างคนที่มีความสุขในอาชีพนี้แบบผม ให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ นี่ละครับเป้าหมาย
Question:คอนเซ็ปต์ว่าเรามีต้นทุนที่เหนือกว่า มีแม่เป็นฝ่ายขาย จบการศึกษาด้านคอมฯ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในงานขายได้ มีครอบครัวที่เข้าใจ = เรามีโอกาสที่เหนือกว่า
Answer:ต้นทุนที่เหนือกว่า มาพร้อม ความคาดหวังที่สูงกว่าคนอื่นๆ
คนเราไม่มีใครเหมือนกันครับ
คุณแม่เข้ามาครั้งแรกไม่รู้ว่างานนี้ทำอะไร คิดแค่ว่า ทำงานนี้ สามารถไปรับลูกสาวได้ตอนบ่าย3โมง (แยกทางกับพ่อ ดูแลลูกคนเดียว)
แม่เก่งมาก ที่เลี้ยงดูลูกได้มาขนาดนี้ ด้วยมือของผู้หญิงคนเดียว ด้วยรายได้จากอาชีพนี้ สมัยก่อนประกันขายยากกว่าสมัยนี้มาก ทำเพราะเป้าหมาย + ความอดทน ซึ่งเป็นข้อดีของคนรุ่นก่อน
ส่วนรุ่นผม มาพร้อมทางเลือก ที่เลือกครั้งแรกเพราะอยากตอบแทนบุญคุณคุณแม่ และบริษัทไทยป(ร)ะกันชีวิต ที่ทำให้ผมได้มีวันนี้ ถามว่าชอบไหม คงตอบได้ว่าไม่ชอบ แต่ไม่อยากเห็นแม่เหนื่อย แล้วก็รู้ว่ามีรายได้ดีเพราะแม่แสดงให้เห็น แล้วก็รู้ดีว่าแม่อยากให้ทำอาชีพนี้ เพราะหลอกให้มาช่วยวางระบบคอมฯให้ อันนี้รู้ว่าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก
อาชีพนี้ถ้าไม่รวมเรื่องที่ต้องศึกษาเงื่อนไขในกรมธรรม์แล้ว
ก็เหลือศึกษาอยู่เรื่องเดียว คือ ใจคน (ลูกค้า,เพื่อนร่วมงาน)
ศึกษาวิชานี้ สุดท้ายไปรวมที่จุดเดียวกันเหมือน ปิรามิดคว่ำ
แต่การศึกษาวิชาอื่นๆ ยิ่งเรียนยิ่งบานเหมือน ปิรามิดหงาย (เรียนหมอ แล้วต่อ เฉพาะทาง แล้วต่อเฉพาะๆๆไปอีก… )
ฉะนั้น ไม่ว่าเรียนจบอะไรมา ก็ล้วนเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น
ผมจบด้านคอมพิวเตอร์ ทำให้เป็นคนที่คิดเป็นเหตุเป็นผล มีหลักการในการวิเคราะห์ สามารถ Present บนคอมพิวเตอร์
แต่ตอนนี้ ผมเข้าใจแก่นแท้และความจำเป็นในการทำประกันชีวิต จนบางครั้งใช้แค่กระดาษแผ่นเดียวก็ขายได้ เข้าใจว่าคนรุ่นเก่าขายอย่างไร บางครั้งรู้เทคโนโลยีเยอะก็ไม่ใช่สิ่งที่วัดว่าเก่งกว่า คนรุ่นก่อนขายโดยไม่ได้ใช้เทคโนโลยี ก็สามารถเสนอคุณค่าและความงามในวิธีของตนเอง ของเก่าก็มีดีเยอะครับ
Question:ช่วยเล่าว่า การที่เราได้อยู่ใต้ชายคาไทยป(ร)ะกันชีวิต คุณค่าแห่งอาชีพ คุณค่าใต้ชายคาบ้านหลังใหญ่ไทยป(ร)ะกันชีวิต
Answer:ไทยป(ร)ะกันชีวิต มีสินค้าที่ไม่เหมือนบ.อื่นๆ เช่น คุ้มทวี 5 เท่า , คุ้มทวี 10 เท่า , VIP บอกถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร แค่ดูจากโฆษณา จะเห็นว่าวิสัยทัศน์ชัดเจน การโฆษณาแบบนี้ไม่เพียงดีต่ององค์กรเราเท่านั้น แต่ดีกับธุรกิจประกันชีวิตทั้งหมด บางทีออกครั้งแรกไม่ใช่พลุที่สว่างไสว แต่ก็เหมือนแสงเทียนที่ส่องให้เห็นหนทางในความมืดมิด และประทับเข้าไปในความทรงจำ บริษัทดูแลฝ่ายขายจนตลอดชีวิตก็ว่าได้ มันทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า สามารถฝากอนาคตไว้กับบริษัทได้ อยากทำอาชีพนี้นานแค่ไหนก็แล้วแต่เราจริงๆ
Question:เปรียบถึงเรื่องของอุปสรรค ปัญหาในการทำงานอาชีพตัวแทน
Answer:ความโลภ ครับ
ตัวแทนอยากขาย หรือ ขายเพราะจำเป็นต้องขาย
เราอยากให้เค้าขึ้นตำแหน่ง หรือ เค้าต้องการที่จะขึ้นตำแหน่ง เลือกที่จะเป็นในสิ่งที่อยากจะเป็น
คนบางคนมักมองว่าอะไรๆ ก็เป็นอุปสรรค แต่ความจริงทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ล้วนช่วยบ่มเพาะช่วยสร้างให้เราเก่งขึ้นมีศักยภาพมากขึ้น เราทำงานกับคน ทุกๆคนก็ล้วนเป็นครูของเราได้ นอกจากนี้ผมยังมีโค้ช ที่ช่วยให้ผมสามารถใช้ศักยภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้นทุกวันทุกวัน ทุกๆปัญหาก็เลยง่ายขึ้น แล้วยังเป็นการพัฒนาศักยภาพเราอย่างไม่รู้จบ
Question:การแก้ไขอุปสรรคและปัญหา วิธีแก้ไข
Answer:โอปนยิโก ย้อนดูใจตัวเอง
เราทำหน้าที่ตัวแทน แล้วเรามีความสุข -> เราทำอย่างไร ได้รับอะไร ก็พยายามให้ตัวแทนได้รับในสิ่งนั้น
“ทุกอย่างอยู่ที่ใจ สุข หรือทุกข์ จนหรือรวย เงินเดือน 20,000 เหลือ 5,000 ก็เรียกว่า รวยได้”
ผมเลือกที่จะเป็นผู้บริหาร เพราะผม จะทำตัวเองเป็นตัวอย่างครับ เราทำงานอย่างมีความสุข ตัวแทนเห็นว่าเราสุขเขาก็รู้สึกได้ว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุข เหมือนเป็นเกราะป้องกันปัญหาต่างๆ ผมทำให้ทีมงานที่ขึ้นตำแหน่งบริหารในระดับต่างๆ แบบมั่นคงและมีความสุข ขึ้นด้วยการตัดสินใจของแต่ละคนเอง ไม่เคยถูกบังคับ แต่ละคนเข้ามาในบริษัท เพราะอยากมาเจอกัน ที่นี่เสมือนเป็นบ้านที่2 ของทีมงานทุกคน แต่ละคนในทีมเราทำงานอย่างมีความสุข ยามที่ไม่ได้มาพบกัน เราก็ใช้ line ใช้ facebook สื่อสารกันอย่างใกล้ชิด พวกเราสนุกกับงานนี้
Question:ประวัติที่มา เรียนจบมาทำงานอะไรมาบ้าง เล่าหน่อย
Answer:จบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
จบปริญญาโท สาขาเทคโนโยยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ทำงานบริษัท Shinee dot com ในเครือซินวัตร ประมาณ 1 ปี เป็นตำแหน่ง Programer
ทำงานบริษัท Smart office ประมาณ 2 ปี เป็นตำแหน่ง Support Engineer
Question:ทำไมถึงเลือกเรียนด้านคอมฯ คิดรึป่าวว่า เลือกเรียนคอมฯ เพราะจะได้มาช่วยงานขายของแม่?
Answer:ที่เลือกเรียนสาขานี้ เพราะชอบเล่นgame ชอบเล่นinternet ชอบเทคโนโลยี
ไม่ได้คิดว่าจะมาช่วยคุณแม่ เพราะ ไม่ได้คิดว่าจะมาทำงานประกัน
Question:จุดเปลี่ยนจากงานคอมที่เรียนมา มาสู่จุดเริ่มต้นของตัวแทนฯ เล่าหน่อย เห็นแม่บอกว่าแรกๆมาช่วยนำคอมพิวเตอร์มาใช้
Answer:คุณแม่โดนรถชน ไปไหนไม่ได้อยู่ประมาณ 1 ปี + แม่ไปเปิดร้านถ่ายรูป เพราะชอบถ่ายรูป ในยุควิกฤตต้มยำกุ้ง ทำให้ติด OD หลายล้านก็เหมือนโชคร้าย แต่ก็มีโชคดีอยู่เพราะผลตอบแทนจากประกันสูงกว่าเงินฝากมาก
ช่วงแรกๆ ผมมาช่วยทำใบเสนอ เพราะคุณแม่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น คุณแม่ก็เอาไปใช้ในการเสนอขายได้ ทำไปบ่อยๆๆ + ได้เข้ามาอบรมหลักสูตรที่ปรึกษาทางการเงิน ทำให้เริ่มเห็นช่องทาง ถ้าเรามาช่วยแม่ ก็จะช่วยปลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น
Question:มีส่วนช่วยในงานขายแม่อย่างไรบ้าง ผูกพันกับงานประจำมาตั้งแต่ตอนไหน (รู้สึกเห็นคุณค่างานประกันตอนไหน เพราะอะไร) ใจจริงๆ ชอบประกันรึป่าว? ถ้าไม่ชอบ แล้วเหตุใดจึงเปลี่ยนเบนเข็มมาทำอาชีพนี้จนได้
Answer: 6 ปีแรก ผมทำเหมือนงานประจำเลย ชอบเพราะรายได้ (ชอบเพราะเหตุผล) ช่วยปลดหนี้
เพราะเริ่มเข้ามาทำงานนี้จากการที่ผลตอบแทนของประกันมากกว่าธนาคาร
แต่ยิ่งอยู่นานอัตราผมตอบแทนทั้ง 2 ฝั่งเริ่มใกล้เคียงกัน (เริ่มที่จะไม่ชอบเพราะเหตุผล เช่นกัน)
ทำให้ผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
โดยการใช้คำว่า กำไรเงินเป็นอย่างรอง
กำไรเรื่องอื่นๆ เข้ามากแทน เช่น ความคุ้มครอง สุขภาพ เป้าหมายเก็บเงิน บำนาญ ฯลฯ
2ปีหลังนี้ ทำให้กลับมาเข้าใจและชอบประกันอย่างแท้จริง
Question:เหตุผลที่ตัดสินใจเดินตามรอยเท้าแม่สู่อาชีพตัวแทน
Answer: ก้าวแรกคือ อยากช่วยแม่
ข้อที่ 2 รู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ คอมพิวเตอร์ เพราะคลื่นลูกใหม่มาแซงได้เสมอ
ข้อที่ 3 งานขาย คือ ศิลปะ ลอกเลียนกันไม่ได้ ต้องใช้ประสบการณ์ การเรียนรู้
ข้อที่ 4 การเรียนรู้เรื่องใจคน ซึ่งสุดท้ายก็ไปที่จุดเดียวกัน ไม่ต้องเหนื่อยเรียนรู้เหมือนศาสตร์อื่นๆ ที่ยิ่งเรียนก็ยิ่งแตกแขนง
Question:วิธีการขายของต้า คิดว่าแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร และจากที่เห็นแม่ขายต้ามีมุมมองอย่างไรบ้าง และนำมาปรับใช้บ้างรึป่าว หรือฉีกแนวไปเลย (เล่าๆๆ)
Answer:คนอื่นผมไม่ทราบครับ เอาจากคุณแม่ละกัน
คุณแม่ พูด ให้ลูกค้าฟังว่า ดีอย่างไร แล้วให้ลูกค้าทำ
แต่ผม ถามๆฟังๆ ให้ลูกค้า ให้เค้าได้คิดว่า ทำไมเค้าควรทำ
คนเราเกิดมามี ปาก 1ปาก หู2 หู ธรรมชาติน่าจะบอกเราว่า ให้ฟังมากกว่าพูด นะครับ
Question: การขาย การเข้าพบ การทำความรู้จัก มีวิธีอย่างไร และมีความแตกต่างกับนักขายคนอื่นๆ อย่างไร
Answer:ฟังให้มาก พูดให้น้อย
ไม่ใช่การฟังเพื่อจะรอเสียบแบบประกันนะครับ
ฟังจริงๆ ฟังแบบให้เห็นชีวิตประจำวันเค้า ฟังให้เห็นภาระของเค้า
รวบรวมเหตุผลว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ฟังให้เห็นว่าชีวิตเค้าขาดอะไร
Question:เล่าเรื่องเคสใหญ่ที่ปิดได้มาล่าสุดหน่อย ทำไงถึงปิดได้ที่ว่า 11 ล้าน เบี้ย 1.5 ล้าน ของเดือนสค. 2555
Answer:คนเราไม่ได้เก่งทุกเรื่องนะครับ
เรืองนี้ผมขอยกความดีให้คุณแม่ผม ครับ
ขอท้าวความนิดนึงครับ
ช่วงเดือน เมย. 2555 แม่เปรยมาว่า อยากทำประกันซึ่งคาดว่าจะเป็นฉบับสุดท้ายของตัวเอง
ผมแนะนำแบบ เก็บมรดกสำเร็จ (http://inheritance.pobprakan.com)
ที่แนะนำแบบนี้เพราะเป็นคุณค่าประกันอย่างแท้จริง ลูกผมก็เป็นผู้รับประโยชน์ด้วย
และอีกอย่าง ผมเชื่อว่า คุณแม่ทำแล้ว ต้องไปบอกลูกค้าให้ทำได้แน่นอน
ผมใช้เวลาอยู่ 1 เดือนทำให้แม่ชอบและตัดสินใจทำประกันแบบนี้
กลับมาที่เรื่องลูกค้า
คุณแม่บริการลูกค้ารายนี้ต่อจากตัวแทน มา 5 ปีแล้ว ซึ่งคุณแม่ก็ไม่รู้ว่าจะขายประกันแบบไหนให้ลูกค้าดี
เพราะลูกค้ารวยมาก จนได้เข้าใจเห็นข้อดีและซื้อประกันแบบนี้เป็นของตนเอง เห็นว่าแบบนี้เหมาะกับลูกค้าเลยเสนอทุนประกัน 11 ล้าน
ลูกค้า : คุณติ๋ม(แม่)ทำแบบนี้ ไหม?
คุณติ๋ม(แม่) : ทำแล้วค่ะ (หยิบกรมธรรม์ของตัวเองให้ลูกค้าดู) พร้อมมีกระดาษโน้ตเล็กๆแปะไว้ที่หน้า กรมธรรม์ ว่า “มอบให้น้องB และอาAnn” (ลูกผมและน้องสาวผม)
ลูกค้า : OK ทำแบบคุณติ๋ม ค่ะ
Question:แนวทางการขายของต้ากับแนวทางการขายแบบนักขายรุ่นก่อนๆ (เก่าอะ) แตกต่างในเรื่องไหน อย่างไร หรือนำเอาวิธีการของเก่ามาปรับ
Answer:ผมอยากย้อนตัวเองไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ว่า ตัวแทนเค้าทำกันอย่างไร
ในเมื่อดอกเบี้ยธนาคาร 15% กับผลตอบแทนประกัน 8 %
ผมเข้าใจมากขึ้น เมื่อผมได้ไปอ่านหนังสือ ชื่อ นิทานสะเทือนใจ ของ คุณชัชวาล โชติวนิช ในห้องสมุดไทยป(ร)ะกันชีวิต
ทำให้เข้าใจว่า ประกันไม่มีอะไรใหม่
คนเราหนี 3 เรืองนี้ นี้ไม่พ้น แก่ เจ็บ ตาย
ไม่ต้องพึ่งการตลาดอะไรมากมาย มันเป็นของมันอย่างนี้มานานแล้ว
ถ้าใครสนใจ mail มาได้ ผมมีตัวอย่างที่เก็บไว้
Question:ครอบครัว (ลูก และภรรยา ) เป็นแรงใจสำคัญอย่างไรต่อการทำงาน (แบ่งเวลาให้ลูกภรรยายังไง เขาเข้าใจอาชีพเรามั้ย ที่ไม่มีเวลาแน่นอน)
Answer:มีส่วนมากอย่างเลยครับ เพราะครอบครัวดี ผมจึงมายืนในจุดนี้ได้ครับ
ภรรยาผมเป็นคนดีมาก รักลูกมาก ดูแลลูกเป็นอย่างดี เป็นคุณแม่ตัวอย่างเลยก็ว่าได้
ผมสามารถจัดสรรเวลาเองได้ วันธรรมดา ก็จะออกจากบ้านสาย
ส่งลูกไป โรงเรียน หรือไม่ก็ กลับบ้านเร็ว
ธรรมชาติของงาน ก็มีการทำงานในหยุดบ้าง ก็อาสา ตอนเช้าก็ไปส่งลูกเรียนพิเศษ แล้วภรรยาไปรับ พอตอนเย็นก็ไปทานข้าวที่ห้างด้วยกัน
Question:เมื่อเกิดช่วงตกต่ำท้อแท้ของชีวิต แก้ไขปัญหาอย่างไร
Answer:ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
การถามผู้รู้ คบบัณฑิต
กัลยณมิตร หาไม่ง่ายเลยครับ ต้องฟังบ่อยๆ ถามบ่อยๆ ซี่งเป็นวิธีเดียวที่จะหาเจอ
Question:ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนแต่เป็นผลมาจากอะไร อะไรในตัวของต้าที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
Answer:ผมคิดว่า ผมยังไม่สำเร็จนะครับ แต่กำลังเดินไปในเส้นทางสู่ความสำเร็จ
(ถ้าเราคิดว่าสำเร็จ ก็เท่ากับเราไม่พัฒนาแล้ว)
ผมเชื่อว่า ความสุขอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ความสุขที่ได้มาวันนี้เกิดจาก
•การเป็นคนชอบเปลี่ยนแปลง
•ชอบฟัง และการมองตามความเป็นจริง ไม่ตัดสินจากมุมมองของตัวเอง
•คบบัณฑิต คนๆนึงที่สามารถคบกันและคุยกันแล้วมีความสุข ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ นะครับ
Question:แม่ถือเป็นต้นแบบในงานขายให้กับต้าบ้างมั้ย อย่างไร?
Answer:
•ความอดทน
•การไม่เพิกเฉย กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่า ทำไปแล้วตัวเองจะไม่ได้อะไร แต่คุณแม่ ก็ทำ ทำเพื่อความถูกต้องและเพื่อส่วนรวม
Question:คำขวัญ คติประจำใจที่ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ
Answer:“เรื่องบังเอิญ ไม่มีอยู่จริง”
ที่เราเป็นอยู่ปัจจุบัน ก็เพราะอดีตที่เราได้ทำมา
ปัจจุบันที่เราทำวันนี้ จะเป็นตัวกำหนดอนาคต
ฉะนั้นที่เรามีความเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ มันไม่ใช่เรืองบังเอิญแน่นอน
ความโชคดี ถ้าไม่มีปัจจัยอื่น ก็เกิดขึ้นไม่ได้
โชคร้ายก็เช่นกัน คุณเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นเอง
*ไทยป(ร)ะกันชีวิต เพื่อ ไม่ต้องการให้ search เจอ*
*ไทยป(ร)ะกันชีวิต เพื่อ ไม่ต้องการให้ search เจอ*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น